Wednesday, 9 September 2015

รู้หรือไม่ขวดน้ำทุกชนิดที่เยอรมนีตีค่าเป็นเงินนะ



                                                    http://www.mehrweg.org/einkaufen/pfand/

สวัสดีค่ะ ห่างหายจากบล็อกไปพักใหญ่ๆ พอดีมีเรื่องวุ่นๆนิดหน่อยเลยไม่มีเวลามาเขียน แต่คิดถึงทุกคนเสมอนะ ไม่รู้จะมีคนรออ่านบล็อคของมาดามรึเปล่าเนออออ แหะๆๆ มาเริ่มเรื่องกันเลยดีกว่า

ซุปเปอร์มาเก็ตหรือตามร้านสะดวกซื้อทั้งหลายในประเทศเยอรมนีนั้น เมื่อเวลาคุณเข้าไปซื้อเครื่องดื่มบรรจุขวดหรือกระป๋องทุกชนิด ทางร้านจะบวกค่าขวดเข้าไปด้วยเสมอเป็นค่ามัดจำ(คล้ายกับขวดน้ำอัดลมแก้วสมัยก่อนเลยเนอะ) ตั้งแต่ 2-25 เซน ขึ้นกับประเภทของขวดนั้นๆ ไม่ต้องแปลกใจหรือโวยวายใดๆ หากมาถึงหน้าเคาร์เตอร์ชำระเงินแล้วพนักงานแจ้งราคาเกินกว่าที่เขาตั้งไว้ นั้นเพราะเขาได้รวมค่าขวดเข้าไปแล้วนั้นเอง ยกเว้นแต่ราคาก่อนบวกค่าขวดมันเกินจริงๆก็ค่อยโวยวายแล้วกันนะ เมื่อเราดื่มเครื่องดื่มต่างๆหมดแล้ว และนำขวดไปทิ้งเท่ากับว่าทิ้งเงินที่เรามัดจำไว้ด้วยเช่นกัน ถ้าอยากได้เงินคืนก็ต้องนำขวดไปแลกตามซุปเปอร์นั้นเอง การที่เขาคิดค่าขวดน้ำเรานั้นก็เพื่อลดปัญหาขยะขวดพลาสติกต่างๆ และปัญหาในการจัดเก็บขยะก็จะน้อยลง อีกทั้งยังสะดวกในการรวบรวมขวดบรรจุภัณฑ์ต่างๆอีกด้วย

อัตราค่ามัดจำขวด
1.         ขวดเบียร์ ชนิดขวดแก้วทุกขนาด                          ราคา   8 เซน
2.         ขวดเบียร์ ฝาขวดป๊อปอัพ                                     ราคา 15 เซน
3.         ขวดน้ำดื่ม ชนิดขวดแก้วและขวดพลาสติก           ราคา 15 เซน
4.         ขวดน้ำผลไม้และขวดน้ำอัดลม                            ราคา 15 เซน
5.         ขวดไวน์ขนาด 1 ลิตร                                          ราคา 2-3 เซน
6.         ขวดเครื่องดื่มใช้ครั้งเดียวทิ้ง                                 ราคา 25 เซน

แต่มันก็ยังมีข้อยกเว้นนะ ขวดเครื่องดื่มบางชนิดก็ไม่มีค่ามัดจำ เพราะอาจไม่จำเป็นต้องนำมารีไซเคิลหรือใช้ใหม่ วิธีที่เราจะรู้ได้ยังไงว่าพนักงานไม่โมเมรวมค่าขวดไปเอง โดยจะมี 2 วิธีดังนี้

1.         สังเกตที่ข้างบรรจุภัณฑ์บริเวณบาร์โค้ด จะมีรูปกระป๋องและขวดน้ำและลูกศรวนกลับ ติดอยู่เสมอ

 
2.         หากไม่มีเครื่องหมายคืนขวด ก็จะต้องสังเกตจากคีย์เวิอร์สข้างขวด โดยทั่วไปจะเขียนว่า Pfandflasche  หรือ Pfand zurück แปลว่า ค่ามัดจำขวด นั้นเอง


เวลาที่เรานำขวดไปแลกเงินคืนโดยปกติแล้วถ้าตามซุปเปอร์มาเก็ต ซึ่งจะมาอยู่ทั่วเมือง จะสะดวกที่สุด เขาจะมีเครื่องคืนขวดตั้งอยู่ภายในร้าน เราก็นำขวดทั้งหมดที่จะไปคืนใส่เข้าไป หันปากขวดเข้าหา จากนั้นเครื่องจะแสกนบาร์โค้ดที่ขวดพร้อมบอกจำนวนและราคาที่ใส่ขวดเข้าไป เมื่อเสร็จแล้วกดปุ่มสีเขียวเครื่องจะให้ใบเสร็จออกมา เราสามารถนำไปขึ้นเงินที่เคาร์เตอร์ชำระเงิน หรือจะนำไปเป็นส่วนลดสินค้าภายในซุปเปอร์ก็ได้ 


                                                    https://de.wikipedia.org/wiki/Leergutautomat

ในกรณีที่ซุปเปอร์บางที่ไม่มีเครื่องคืนขวด เราสามารถนำไปคืนได้ที่เคาร์เตอร์ชำระเงินได้เลย โปรดจำไว้หากฉลากยี่ห้อขวดหลุดออก เราจะไม่สามารถคืนได้ เนื่องจากเครื่องไม่สามารถอ่านบาร์โค้ดได้ว่าขวดนั้นเป็นขวดจากที่ไหน ก็จะอดได้เงินคืนนะ

สำหรับยี่ห้อเครื่องดื่มที่เป็นสินค้าตราห้าง ( House Brand ) บางชนิดจะสามารถคืนได้เฉพาะซุปเปอร์ที่ซื้อมาเท่านั้น ฉะนั้นเพื่อความแน่นอนว่าคืนได้ทุกที่ จงซื้อเครื่องดื่มที่มีขายทั่วไปจะดีกว่า แต่อาจจะลำบากตอนคืนนิดหน่อยเท่านั้นเอง แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่ามันเป็นสินค้าตราห้าง ข้อสังเกตเหมือนบ้านเราเลย ราคา จะถูกกว่าสินค้าแบรนด์ ลักษณะฉลากหรือบรรจุภัณฑ์จะเรียบๆ ไม่สวยงามเท่าไร ส่วนรสชาติก็ตามแต่บุญแต่กรรม บ้างก็อร่อยบ้างก็สยอง แต่ถ้าอยากลองก็ได้นะไม่ผิดกติกานะ

แล้วถ้าเราไปทานอาหารตามร้านทั่วไปสามารถคืนขวดได้ไหม บางร้านทำได้ บางร้านทำไม่ได้ ร้านที่ทำได้จะเป็นร้านอาหารเล็กๆ เขาจะบวกค่ามัดจำลงไปในใบเสร็จเมื่อเราทานเสร็จก็จะนำขวดไปคืนก็จะได้เงินกลับมา แต่ส่วนใหญ่ก็จ่ายให้เป็นทิปไป บางครั้งเขาก็จะไม่ได้แจ้งค่าขวดในใบเสร็จ แต่บวกกำไรไปกับค่าเครื่องดื่มเรียบร้อยแล้ว เราก็สามารถนำขวดออกมาได้ ซึ่งก็เป็นสิทธิ์ของเรา แต่บางร้านหัวหมอ ราคาเครื่องดื่มก็สูงแล้วแต่ก็ไม่ให้ขวดเรา โดยเขาจะรินใส่แก้วมาให้เลย เช่นนี้ก็อดไปนะ

http://www.kaleidos.de/2013/03/05/einkaufen-8/
 
นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ไม่รู้ก็จะทิ้งขวดกันแทบจะทุกคน บางคนรู้แต่ไม่อยากเสียเวลา หรือหอบหิ้วขวดไปด้วยตลอด ดังนั้นจึงทำให้มีอาชีพเก็บขวดคืนตามเมืองใหญ่ๆ หรือตามสวนสาธารณะ บางคนคุ้ยในขยะหาขวดเลย ถ้าตามสวนฯ เขาอาจจะเดินมาถามว่าจะเอาขวดไหมถ้าไม่เขาขอ  มาดามเคยเห็นวันนึงได้เป็นกระสอบเลยก็มี 

                          http://www.kaleidos.de/2013/03/05/einkaufen-8/
 

รู้อย่างนี้แล้วต่อไปเวลามาเที่ยวเมืองอินทรีย์เหล็กก็อย่าทิ้งขวดกันนะจ๊ะ แม้ว่าจะเป็นเพียงไม่กี่เซน แต่ถ้าหลายๆ คน หลาย ๆขวดรวมกันมันก็เป็นเงินที่สามารถซื้ออาหารทานได้หนึ่งมื้อเลยนะ

 

มีสลึงพึงประจบให้ครบบาท อย่าให้ขาดสิ่งของต้องประสงค์
จงมักน้อยกินน้อยค่อยบรรจง อย่าจ่ายลงให้มากจะยากนาน....

No comments: