ตอนที่แล้วได้กล่าวไปถึงความวุ่นว่ายของราคาสินค้า ที่นี่เรามาดู "เงินสกุลยูโร" กันดีกว่า
หลายๆคนคงทราบกันดีว่าประเทศแถบยุโรปจะนิยมใช้เงินสกุลยูโรเป็นส่วนใหญ่
แต่จะมีบางประเทศไม่ใช้ เช่น สวิตเซอร์แลน เดนมาร์ก นอร์เวย์ เป็นต้น
ธนบัตรใบใหญ่สุดแพงสุด และไม่นิยมใช้กันตามท้องตลาด คือ 500 ยูโร แค่แบงค์
100 มันยังทดสอบแล้วทดสอบอีก นี่แบงค์ 500
คงวิ่งไปธนาคารแห่งประเทศเยอรมันเลยมั้ง 555 ต่อมาก็ยังไม่นิยมใช้กันตามท้องตลาดอยู่ดี คือ 200 ยูโร
ทีนี้มาถึงแบงค์ที่ใช้ได้กันบ้างนั้นก็คือ 100 ยูโร
แต่เอาเข้าจริงเวลาซื้อของแค่หลักหน่วยหรือหลักสิบต้นๆ ให้แบงค์ร้อย
ยังกลัวคนขายจะตบเอาเล้ย คิดง่ายๆ ซื้อของ สี่บาทและจ่ายแบงค์พันอ่ะ O_ o
ใบร้อยพวกนี้นักท่องเที่ยวค่อนข้างพกไปเยอะแล้วไปแตกเอาทีหลัง
เอาละมาถึงใบที่ใช้ง๊าย ง่าย จ่ายปรื้ดๆ คือ 50 20 10 และ 5 ยูโร ตามลำดับ นี่แค่แบงค์นะยังไม่ถึงเหรียญ เฮ่อ!!!ปาดเหงื่อแพร๊บ
ต่อมาเหรียญกันมั้ง เยอะจนตาลายเวลาจะใช้ที เริ่มที่ยูโร 2, 1 ต่อไปเป็น
เซนต์ 50, 20, 10, 5, 2, 1 โอ้วพระเจ้าแม่มเอ้ยใครมันคิดว่ะ เยอะชิบหาย!!!
แต่ถ้าให้ใช้เอามะ เอาสิ อิๆๆ แล้วสีและขนาดของเหรียญ ใกล้เคียงกันด้วย
หนึ่งกะสองไม่เท่าไร รูปร่างและสีคล้ายเหรียญสิบบ้านเรา อีเซนต์สิ หึๆๆ ห้าสิบ ยี่สิบ สิบ จะเป็นสีทอง ส่วน
ห้า สองและหนึ่ง จะเป็นทองแดง คิดสภาพเวลาที่มันรวมกันทุกสีทุกขนาด โอ้ว
มาย ก๊อตจิ !!!
อย่างที่บอกไปตอนที่แล้วว่าสินค้ามันทุกอย่างจะมีทศนิยมสองตำแหน่งเสมอ
เวลาซื้อของก็ปวดหัวกันหน่อยละคะพี่น้อง คณิตคิดช้าอย่างมาดาม โอ้ยปวดหมอง!! ตั้งสติก่อนสตาร์ทนะเทออออ
**เพิ่มเติม ภาษาเยอรมัน เรียกสกุลเงินยูโรว่า"ออยโร"
สำเนียงเยอรมัน
No comments:
Post a Comment