Wednesday, 19 August 2015

พาเที่ยวหน้าร้อน เมือง Kitzbühel, Tirol Austria







ก่อนอื่นขอแสดงความเสืยใจกับญาติผู้เสียชีวิต และผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหลาย กับเหตุลอบวางระเบิดที่บริเวณพระพรหมเอราวัณ แยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม ที่ผ่านมาด้วยนะค่ะ ขออย่าให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกเลย สาธุๆๆๆ

จริงๆแล้วบทความนี้มาดามเขียนไว้วันเดียวกับที่เกิดเหตุลองวางระเบิด เกือบจะจบแล้วพอทราบข่าววางทุกอย่างแล้วเปิดทีวีดูเลย เป็นห่วงเพื่อนๆพี่ๆน้องๆที่ทำงานอยู่บริเวณนั้น ทุกคนปลอดภัยมาดามก็สบายใจ เรื่องราวร้ายๆผ่านไปแต่ทุกอย่างยังไม่กระจ่าง มาดามเป็นกำลังใจให้ตำรวจและทหารทุกนายจับคนร้ายมาลงโทษให้ได้นะคะ เอาละมาถึงช่วงมาดามพาเที่ยว คลายเครียดกันบ้างดีกว่า

เมื่อวันหยุดสุดสัปดาห์มาถึงสองสามี ภรรยา จะถามกันแล้ว ไปไหนกันดี คำถามโลกแตกไม่รู้จะไปไหน พอดีเป็นช่วงเพื่อนสาวว่างนางเลยชวนมาเที่ยวบ้านที่ เมือง Kitzbühel ประเทศ Austria จัดไปค่ะ 2วัน 1คืน สวย ๆ ตามมาดูกันว่าเมืองนี้จะมีอะไรให้เที่ยวชมกันบ้าง

Kitzbühel ออกเสียงว่า คิทส์บูเฮล เป็นเมืองแห่งภูเขาของแคว้น Tirol ประเทศออสเตรีย ในช่วงฤดูหนาวจะคราครั่งไปด้วยนักท่องเที่ยว เนื่องจากแคว้นนี้เป็นที่นิยมของนักสกีทั่วยุโรป และมีการแข่งขันสกีจั้มทุกปี โรงแรมจะเต็มตลอดถึงแม้ว่าแต่ละที่จะมีราคาสูงก็ตาม และเมื่อฤดูร้อนมาเยือนความนิยมไปเที่ยวไม่ได้น้อยไปกว่าช่วงฤดูหนาวเลย มีกิจกรรมให้เลือกทำมากมาย ทั้งปีนเขา นั่งกระเช้า กระโดดร่ม ว่ายน้ำ และอีกมากมาย แต่มาดามไปแค่สองวันเลยไม่ได้ทำกิจกรรมอะไรมากมาย เน้นชิวเบาๆ เดินชมเมืองสวยๆ ผจญภัยเล็กๆน้อยๆ




ออกเดินทางจากเมืองมิวนิคเวลา 10 นาฬิกา ระยะทางประมาณ 135 ก.ม. ใช้เวลาขับ 2 ชั่วโมง รวมรถติดและหลงทางแล้ว ฮ่าๆๆๆ ก่อนเช็คอินเข้า รร. เราแวะพักทานอาหารกลางวันกันที่ Schwarzsee ทะเลสาบดำ สาเหตุที่เรียกชื่อนี้ เนื่องจากพื้นทะเลสาบเป็นโคลนตม เมื่อมองจากที่สูงจะเห็นน้ำเป็นสีดำนั้นเอง ที่นี่จะมีกิจกรรมทางน้ำให้บริการทั้งเด็กและผู้ใหญ่




แต่ร้านอาหารมีให้เลือกไม่มากนักจากที่เห็นจะมีอยู่ 2-3 ร้าน มาดามเลยเลือกร้านอิตาลี
Barrique Kitzbühel เพราะคิดว่าน่าจะกินง่ายที่สุดสำหรับตัวเอง อิๆๆ ร้านนี้เป็นร้านอาหารแบบ Slow Food




หากใครที่เร่งรีบไม่แนะนำเนื่องจากเขาจะทำสดใหม่ทุกอย่าง จึงใช้เวลาทำค่อยข้างช้า แต่รับประกันความอร่อย บริการดี พนักงานน่ารัก แถมบรรยากาศเริศอีกต่างหาก มีโซนให้นั่งทั้งภายในร้าน และริมทะเลสาบ อากาศเย็นสบายๆไม่ร้อนมาก ทานอาหารไปชมบรรยากาศไป ฟินเลยทีเดียว อิๆๆ

หลักจากอิ่มหน่ำอาหารกลางวันกันไปแล้ว ก็เดินชมวิวทิวทัศเล็กน้อย หลังจากนั้นก็มุ่งหน้าเข้าเมืองกัน เราพักกันที่โรงแรม Sporthotel Reisch, Kitzbühel เป็นขนาด สี่ดาว อยู่ใจกลางเมือง ที่จอดรถฟรี ไวไฟฟรี พร้อมอาหารเช้า คืนละ 153 ยูโร ฮึปาดเหงื่อแพร๊บ ไม่ต้องตกใจทำไมมันมันแพงขนาดนี้ อย่างที่บอกไว้แล้วเมืองนี้เป็นที่นิยมตลอดทั้งปี ที่พักต่างๆจึงมีราคาสูงไปด้วย แต่ถ้าออกนอกเมืองไปจะราคาถูกลง ด้วยความที่บ้านเพื่อนอยู่ในเมืองเพื่อความสะดวกจองก็จอง 

 





ขนาดห้อง 29 ตรม. เตียงควีนไซส์ ห้องน้ำในตัว มีอ่างอาบน้ำและฝักบัว วิวเมือง รวมๆแล้วก็สมราคาดี พอเช็คอินเสร็จก็ไปเดินชมเมืองช๊อปปิ้งกันกับเพื่อนสาว เพรนไว้ว่าวันเสาร์เราจะไปช๊อป แล้ววันอาทิตย์ไปนั่งกระเช้าขึ้นเขา แต่...แผนพังค่ะ วันเสาร์เป็นวันหยุด!!!!!!!!! บระเจ้า ตอนจองลืมดูปฏิทิน เยอรมนีกับออสเตรียดันหยุดเหมือนกัน จำได้ไหมมาดามเขียนไว้บทความที่แล้ว วันหยุดทุกร้านปิด โดนซะเองคร้าาาา เอ้า!!ทำไงได้มาแล้วนิ เดินก็เดิน แต่ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีบ้าง บางร้านมีเปิดได้เข้าไปดูแก้เซ็ง แต่ราคาแพงระยับตับกระจุย ก็ได้แค่ชม ๆ ดม ๆ หอมปากหอมคอ 






                                              รถม้าชมเมือง ขั้นต่ำ 30 นาที 40 ยูโร


ตกบ่ายแก่ๆ เพื่อนสาวพาไปทานไอศครีมที่ร้าน Caffe Beluna มาดามกับเพื่อนสั่ง ไอศครีมช๊อคโกแล็ตปั่น รสชาติไม่ผ่านค่ะ ไอศครีมมีอยู่นิดนึง วิปครีมก็ไม่อร่อยให้มาซะครึ่งแก้ว แถมแพงด้วย ในมิวนิคอร่อยกว่า ส่วนคุณสามีทานกาแฟใส่ไอครีมวนิลา ไม่ได้ถามว่าอร่อยไหมเพราะขานั้นกินอะไรก็อร่อยหมด แต่เดาว่าไม่โอเหมือนกัน ฮ่าๆๆ





ตกเย็นเราไปงานดนตรีท้องถิ่นของเมืองกัน ที่ Jochberg ห่างไปประมาณ 8 กม. จะเป็นงานอินดอร์ภายในงานจะมีซุ้มขายอาหาร เครื่องดื่ม กาแฟและเค้ก ช่วงทุ่มถึงสามทุ่มมีวงดนตรีคลาสสิคบรรเลงโดยเครื่องเป๋าให้ฟัง แนวเพลงท้องถิ่นไม่รู้จักหรอกฟังไปงั้นแหละ นักดนตรีน่ารักเลยอยู่ฟัง ขริๆๆ 





พอสามทุ่มกว่าๆ มีอีกวงมาแสดง เป็นบอยแบนด์ สามหนุ่ม แนวโฟคซองค์ ประมาณลูกทุ่งเมืองฝรั่วอ่ะ ทนฟังอยู่สามเพลง พอแหละกลับโรงแรมนอนดีกว่า อยู่ไปก็ฟังไม่รู้เรื่องง่วงด้วย ส่งเพื่อนสาวถึงบ้านเรียบร้อย ราวๆ สี่ทุ่มผับที่ รร.มีปาร์ตี้ เปิดเพลงดึ่งดึ๋งทันสมัย แหม่ไม่น่าเลยถ่อไปซะไกลของดีอยู่ปลายจมูกนี่เอง แต่ไม่ไหวแล้วขี้เกียจ อาบน้ำนอนดีกว่าเก็บแรงไว้ขึ้นเขาวันถัดไป

 
 

ด้วยความที่รร.ไม่มีแอร์จำต้องเปิดหน้าต่างนอน และปาร์ตี้ข้างล่างก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลง เที่ยงคืน ตีหนึ่งยังเมามันกันอยู่ โอ้วแม่เจ้าเสียงดังสิค่ะ นอนไม่ได้คุณสามีต้องลุกไปปิดหน้าต่าง อะเงียบ ไม่ได้ยินเสียงและ แต่.... ไม่มีแอร์ ร้อนสิค่ะ หายใจไม่ออกอีก แม่มมมเอ้ย สรุปทั้งคืนสองผัวเมีย ตาโหล่ตอนเช้าเลย นอนไม่หลับคะ พอเลยงานนี้ไม่จองรร.ในเมืองอีกต่อไปแล้ว เข็ดพะยะค่ะ และที่สำคัญสิ่งที่ต้องดูเป็นอันดับต้นๆต่อไปคือ เครื่องปรับอากาศในห้องพัก ไม่งั้นกรูตายยยยยย 

เช้าวันต่อมาอาบน้ำแต่งตัวไปทานอาหารกัน ทางโรงแรมมีแบบ A la carte และบุฟเฟต์ให้บริการ ลำพังแค่บุฟเฟต์ที่รร.จัดไว้ก็ละลานตา ทานกันไม่ไหวแล้ว อาหารน่าทาน


 





  




อีกทั้งยังมีชีส เนย นม และแยมโฮมเมดให้ลิ้มลองด้วย แต่มาดามไม่ได้ชิมนะเผอิญไม่นิยมชีสเท่าไรแค่ได้กลิ่นก็จะเป็นลมแย้ว แต่แอบถามสามีว่าเป็นไงมั้ง นางว่า ชีส รสชาติค่อนข้างเข้ม 




เติมพลังกันเต็มที่พร้อมออกเดินทางไปนั่งกระเช้าขึ้นเขา ที่เมืองนี้จะมีจุดขึ้นกระเช้าหลายที่มาก แล้วแต่ใครอยากจะขึ้นไปสูงแค่ไหน เราเดินทางไปขึ้นกันที่ Hornbahn
 











ที่จุดนี้สามารถขึ้นไปที่ความสูง 1998 m ราคาไป-กลับ 22 ยูโร หากใครพักโรงแรมในเมืองนี้จะได้รับส่วนลดอีกท่านละ หนึ่งยูโร รายละเอียดเพิ่มเติม ที่นี่



 
วันนี้ท้องฟ้าไม่ค่อยเป็นใจหมอกลงจัดเพราะกลางคืนฝนตก เลยทำให้มองไม่เห็นวิวจากบนเขาเสียเท่าไร ตกบ่ายเมฆเริ่มจางลงพอมองเห็นบาง บนเขาจะมีสวนดอกไม้ท้องถิ่นจัดประดับไว้ แต่มันเริ่มโรยแล้ว ก็ยังคงสวยอยู่นะ 





 



















น้องวัวน้อยใหญ่บ้างนอน บ้างเล็มหญ้าตามข้างทาง เวลาเดินลงเขาสิ่งที่ต้องระวังคือ ขี้น้องวัวนะจ๊ะ นางๆทั้งหลายถ่ายทิ้งเรี่ยราดรายตลอดทางเลยจร้าา 



 
เราเดินลงเขากันมาที่จุด 1670 m Alepenhaus ราวๆบ่ายสองได้ พักทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารที่นี้ รสชาติไม่ค่อยถูกปากเท่าไร ขนาดสามีที่กินอะไรก็อร่อย ยังเหลือเต็มจานเลย แต่ราคาไม่แพงมาก ทานแค่พอประทังความหิวได้ 


 
จากนั้นเรามุ่งหน้าไป Zahmer Kaiser สวนสนุกเล็กๆสำหรับทั้งครอบครัว อยู่แถวๆ Walchsee เป็นทางผ่านก่อนกลับบ้าน เพื่อไปเล่นกิจกรรมประจำฤดูร้อนที่พลาดไม่ได้ นั้นก็คือ

 

 

Sommerrodelbahn  หรือ รางสไลเดอร์นั้นเอง ก่อนอื่นเราจะต้องนั่งกระเช้าขึ้นเป็นบนเขา เพื่อไปยังจุดเริ่มต้นของราง จากนั้นนำเครื่องสไลด์วางบนราง ซึ่งจะไม่มีเครื่องยนต์ใดๆ จะมีเพียงเบรคมือบังคับความเร็วเท่านั้น สามารถเลือกได้ทั้ง มันส์คนเดียว หรือจะเสียวคู่ ตามชอบใจ เอาละเมื่อเครื่องพร้อม คนพร้อม ก็.....ไป ความยาวของราง 90 m และความเร็วโดยประมาณ 40-50km/h ดูเหมือนไม่เร็ว แต่อย่าลืมนะเป็นความเร็วลงเขาจ้าาาาา                   
                                                                                    
                                                                       http://zahmerkaiser.com/sommer/sommerrodelbahn-walchsee

 












 
                                   





มาดามกับสามีจัดไปคนละ สามรอบ ราคารวมกระเช้าขึ้นเขาด้วยสองคนทั้งหมด 24 ยูโร มันส์ปิดทริปก่อนกลับบ้านนอน อิๆๆ นอกจาก Sommerrodelbahn แล้วยังมีส่วนสำหรับเด็กเล็กให้ได้สนุกกันอีกด้วยนะ รายละเอียดเพิ่มเติม ที่นี่

สนุกสนานยามสุดสัปดาห์คราวหน้าจะพาไปไหนเคยติดตามกันต่อไปนะคร้าาาาาา แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะมีเกร็ดความรู้สนุกๆ มาฝากกันเช่นเคยค่ะ

สุดท้ายนี้ขอให้คุณพระศรีรัตนตรัยจงปกปักรักษาพี่น้องชาวไทยและต่างชาติทั้งหลายในประเทศไทยและทุกๆที่ให้พ้นจากอันตรายทั้งหลายทั้งปวงนะคะ เพี้ยงงงงง

Wednesday, 12 August 2015

วันแม่เมืองหนาว ตรงกับของไทยไหมหว่า!!!??





 
สวัสดีวันแม่ปี 2558 สวัสดีคุณแม่ คุณลูก ทุกๆท่านนะค่ะ วันนี้เป็นวันดีๆที่หลายๆคนจะได้วันหยุดพิเศษจากการทำงานต่างๆ แล้วได้มารวมตัวกันอีกครั้ง มาดามอิจฉาพวกคุณๆจริ๊งๆ อิๆๆ ยังไงก็ขอให้ทุกๆคนมีความสุขกันมากๆ สุขภาพแข็งแรง กันนะคะ เมาไม่ขับน้า

ที่นี้เรามาดูกันว่าฝรั่งเขามีวันแม่หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์กันบ้างหรือเปล่า

วันแม่ (Muttertag)ของเยอรมนี และบางประเทศในยุโรป จะเป็น วันอาทิตย์ที่สองของเดือนพฤษภาคม  จะไม่ใช่วันหยุดนักขัตฯ และก็ไม่ใช่วันพระราชสมภพของราชินีเหมือนของไทย แต่ความสำคัญนั้น เหมือนกันก็คือ เพื่อรำลึกถึงบุญคุณของแม่ที่ให้กำเนิด และเลี้ยงดูบุตรด้วยความเหนื่อยยาก บรรดาลูกๆก็จะทำอาหาร หรือไม่ก็ซื้อเค้กมาเอาใจคุณแม่ คนเยอรมันชอบทานของหวานเอามากๆ ฉะนั้นเค้กเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้และจะต้องมีในทุกๆเทศกาลกันเลย  

เมื่อพูดถึงวันแม่จะไม่พูดถึงวันพ่อเดี๋ยวคุณพ่อจะน้อยใจ วันพ่อ(วันหยุดนักขัตฯ)ของเยอรมนีนั้นจะเกี่ยวข้องกับศาสนาคริสต์โดยตรง และไม่เรียกว่า Vatertag ตามปฏิทินจะเรียกว่า Christi Himmelfahrt 



http://www.charms-schmuck.de/schmuck-wissen/christi_himmelfahrt-21.html
 

เป็นวัน สมโภชพระเยซูเจ้าเสด็จขึ้นสวรรค์ ระลึกถึงการได้อยู่กับพระบิดาและพระบุตร ไม่ระบุวันตายตัว แต่จะเฉลิมฉลองกันหลังอีสเตอร์ซันเดย์ 39 วัน หมายความว่าวัน Christi Himmelfahrt จะเป็นวันที่ 40 นั้นเอง ซึ่งมักจะตรงกับวันพฤหัสทุกครั้งไป

นอกจากนั้นแล้วเยอรมนียังมีวันหยุดต่างๆโดยมากจะเป็นวันหยุดทางศาสนา วันชาติ วันเกี่ยวกับกษัตริย์ และวันเฉลิมฉลองเทศกาล 

แล้วทุกคนในประเทศจะหยุดกันหมดหรือป่าว ตอบเลยว่า ม่ายยยยย ที่นี่จะแบ่งวันหยุดต่างๆตามภูมิภาคของประเทศอาจเป็นเพราะ เมื่อก่อนเยอรมันโดนแบ่งออกเป็นสองส่วน การปกครองของทั้งสองฝั่งเลยต่างกัน เมื่อรวมเป็นหนึ่งเดียวแล้วก็ยังยึดวันหยุดแบบเดิมอยู่

ทางตอนเหนือของประเทศ เช่น เบอร์ลิน ฮัมบูร์ก เบรเมน ส่วนทางตอนใต้ แคว้นบาวาเรียที่หลายๆคนรู้จัก เช่น มิวนิค ฟูเซิน เอาส์บูร์ก เป็นต้น วันหยุดต่างๆไม่เหมือนกัน เว้นแต่วันสำคัญของชาติ วันแรงงาน ที่จะหยุดเหมือนกันทั้งหมด

สำหรับวันหยุดของเด็กๆก็มีช่วงกุมภาพันธ์หรือมีนาคม นั่นก็คือวันแฟนซีคานิวัล หรือ Fasching เด็กน้อยเด็กใหญ่แต่งตัวเป็นการ์ตูน คอสเพลโน่นนี้ออกมากเฮฮากันในเมือง 

 
 
โรงเรียนต่างๆหยุดกันเป็นอาทิตย์ บริษัทห้างร้านบางที่อาจหยุดบางวันหรือทำงานกันครึ่งวันแล้วแต่นโยบาย เมืองยอดนิยมที่จัดงานนี้ใหญ่ที่สุดต้องที่ เมืองโคโลญ ( Cologne ) ลองไปกันดูเผื่ออาจจะได้เห็นอะไรแปลกๆ แต่คิดว่าอาจไม่ยิ่งใหญ่เท่าคานิวาลที่บลาซิลนะ

แล้วผู้ใหญ่อย่างเราๆ วันไหนจะได้หยุดละ ส่วนใหญ่ที่จะได้หยุดกันจริงๆจังๆจะเป็นวันหยุดทางศาสนา วันอาทิตย์นี่ตายตัวหยุดอยู่แล้ว ร้านรวงปิดหมด หากแจ๊คพ๊อทมีวันหยุดตรงกับวันเสาร์ด้วย จบค่ะ!!!! เสาร์ อาทิตย์ ไม่ต้องออกไปซื้ออะไรเลย ตายอยู่บ้านนั่นแหละ หนีไปเที่ยวประเทศอื่นได้เลย ซึ่งมาดามทำเป็นประจำ อิๆๆๆ

ฮั่นแน่ !! สงสัยละสิว่าวันหยุดตรงกะวันเสาร์แล้วจะมี ชดเชยไหม คำถามเดียวกันเล้ย ตอบเลยว่า ไม่ค่ะ จบมะ!!? แม่มมมมม มาดามนึกว่าสามีจะได้หยุดยาวซะหน่อย อดนะคะ ก็ไปทำงานปกติในวันจันทร์ วันหยุดตรงกับวันไหนก็หยุดแค่วันนั้น ถึงแม้มันจะหยุดแบบฟันปลาให้น่ารำคาญใจก็ตาม ใครมีพักร้อนก็ลาเพิ่มกันไปตามสะดวก ใครเสล่อหยุดโดยพลการตกงานเอาดื้อๆนะจ๊ะ ป้าอังกะลาไม่ใจดีเหมือนลุงประยุทธ แจกวันหยุดต่อเนื่องกระจาย เห็นมะอยู่เมืองไทยสบายกว่าเยอออออออะ

ใครจะมาเที่ยว เปรี้ยว มาขุดทอง ก็ลองดูนะจ๊ะ จะได้วางแผนเที่ยว เปรี้ยวกันอย่างสะใจ

ว่าแล้วมาดามรีบเปิดปฏิทินหาวันหยุดต่อไปโดยพลัน
อากาศในยุโรปร้อนอย่างนี้ หอบผ้าหนีเที่ยว กับผู้ชายฝรั่งอีกดีกว่า
ขริๆๆๆๆ

Monday, 3 August 2015

เที่ยวยุโรปเดือนไหนจะ สบายตังค์ สบายตัวดีเน้อ ตอนที่ 2



                             http://www.cleothailand.com/2015/13960/#prettyPhoto
 
เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา เรามาต่อกันที่ 2 ฤดูสุดท้ายจะน่าเที่ยวแค่ไหนมาติดตามกันเลยจ้า

มิ.ย. ถึง ก.ย. ในบทความก่อนหน้ามาดามได้เล่าถึงความร้อนทรหดของแดนอินทรีย์เหล็กไปแล้ว อุณหภูมิประมาณ 20-30 องศา แต่มันก็เป็นช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น ปีนึงร้อนสามเดือนทนค่ะทน แต่ก็ชอบนะแต่งตัวสบายดี เสื้อยืดกางเกงขาสั้น รองเท้าแตะ ไม่ต้องวุ่นวายเรื่องหมวก ผ้าพันคอ รองเท้าบู๊ทหนาๆ เกะกะ ฝรั่งตาน้ำข้าว ร้อนซู่ซ่า แก้ผ้าเดินกันซะเลย เอ้าจริงๆ นะไม่ได้โกหก ตามสวนสาธารณะใหญ่ๆของเมือง เขานิยมไปนุ่งน้อย ห่มน้อย อาบแดดกัน ช่วงนี้เป็นช่วงกอบโกยสีแทนกันละ ใครอยากดูของแปลกๆเชิญเลยจ้า อิๆๆ 

นอกจากอาบแดดตามสวนสาธารณะกันแล้วยังมีอีกสวนที่แนะนำให้มาเยือน นั้นก็คือสวนผลไม้นั้นเอง เมืองไทยหน้าร้อนเปิดสวน ละมุด มังคุด ทุเรียน เงาะ ฯลฯ มาเมืองหนาวแล้วจะพลาดผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ได้ไง เริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นไป นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปเก็บทานกันได้จนอิ่มทั้งครอบรัว และสามารถเก็บกลับได้ ส่วนค่าใช้จ่ายในการเก็บ จะคิดราคาเป็นกิโลกรัมของผลไม้นั้นๆที่เราเก็บออกมา หมายความว่าตอนเข้าไม่เสียเงิน แต่ตอนออกต้องเก็บออกมาด้วย ไม่ใช่ทานจนอิ่มแต่ไม่เก็บออกมา อาจโดนตีหัวได้นะ ตามมารยาทต้องอย่างน้อยครึ่งกิโล ราคาเริ่มต้นโดยประมาณ กิโลกรัมละ 4-5 ยูโร หากใครไม่มีภาชนะสำหรับเก็บเบอร์รี่ทางสวนจะมีบริการขาย ตามแต่จะเลือกเล็กหรือใหญ่ ราคาเริ่มต้น 50 เซนต์  ผลไม้ที่ออกก่อนอย่างแรกคือ สตรอเบอร์รี่ ( Erdbeer)


 

เป็น ช่วงปลายพ.ค. ถึง กลาง ก.ค. หลังจากนั้นจะน้อยแล้ว ที่ออกตามมาคือ            ราสเบอรร์รี่ (Himbeer) เรดเคอร์เรน (Johannisbeer) แบล็คเบอร์รี่ (Brombeer) เชอร์รี่ (Kirschen) บลูเบอร์รี่(Heidelbeer) ทั้งเดือน ก.ค. พอเข้าส.ค. จะไม่ค่อยมีให้เก็บแล้ว แต่จะมีขายเท่านั้นและราคาแพงขึ้น
 
                                                                
                                                        http://www.hofreiter.de/beerencaf%C3%A9/ 

นอกจากที่เราสามารถลุยสวนเก็บกันเองแล้ว บางสวนก็จะมี ร้านอาหารหรือคาร์เฟ่ มีทั้งกาแฟ ขนมหวานที่ทำจากเบอร์รี่ทั้งหลายไว้บริการ พร้อมทั้งยังมีสนามเด็กเล่นให้น้องๆหนูๆ ที่ยังมีพลังเหลือเฟือ ได้เล่นกันอีกด้วย เพื่อนๆท่านใดอยากเปลี่ยนบรรยากาศท่องเที่ยวลองเข้าไปดูที่เวปนี้ http://www.hofreiter.de จะเป็นรายชื่อสวนเบอร์รี่ของเมืองมิวนิค ใกล้ที่ไหน สะดวกที่ไหนลองไปเที่ยวชมกันค่ะ ส่วนความอร่อยแล้วแต่สวนนะบางที่ก็อร่อยบางที่ก็ไม่โอ ไม่ขอแนะนำนะเดี๋ยวเขาจะหาว่าดิสเครดิตสวน *** ทิปเล็กๆสำหรับแฟนสตรอเบอร์รี่ ไม่แนะนำให้เก็บหลังจากฝนตกเพราะสตรอเบอร์รี่จืดและเน่าเสียส่วนใหญ่ ให้เก็บช่วงที่แดดจัดๆ คุณจะได้สตรอเบอร์รี่ที่หวานจับใจ ***



อิ่มหน่ำสำราญกันแล้วมาละลายไขมัน หลั่งอะดินาลีนกันบ้างดีกว่า สำหรับใครที่ชื่นชอบกิจกรรมหวาดเสียว ขอแนะนำ สวนสนุกและสวนน้ำเลย มีมากมายในแถบยุโรป มาดามจะขอแนะนำเท่าที่รู้จักละกันนะ เช่น Europa Park, Phantasialand , Movie Park Germany, Heidepark, Legoland Deutschland Resort, Hansa-Park and Holiday Park, Bayern Park, Therme Erding Munich เป็นต้น

 
 

สามารถสนุกได้ทั้งครอบครัว บางคนสงสัยว่าทำไมมาดามแนะนำให้มาเที่ยวสวนสนุก ก็เพราะว่าสวนสนุกต่างๆ ทั่วยุโรปจะเปิดบริการเฉพาะช่วงเข้าหน้าร้อนเท่านั้น คือ เม.ย ถึง ก.ย. พอเข้าฤดูหนาวตุลาคมเป็นต้นไปจะปิดทำการนั้นเองจ้า ส่วนแหล่งท่องเที่ยวทั่วไปตามหนังสือท่องเที่ยวมักเปิดตลอดทั้งปีอยู่แล้ว

กิจกรรมประจำผู้หญิงเราจะไม่พูดถึงไม่ได้นั้นคือ ช๊อปปิ้ง หน้าร้อนมาเยือนมาทั้งที เสื้อผ้าเก๋ๆ สไตล์งามๆ มีให้เลือกเต็มที่ แหวกหน้า แหกหลัง สั้นแค่คืบ โชว์สะดือ และอีกสาระพัด ราคาถูกบ้างแพงบ้างแล้วแต่ยี่ห้อกันไป อาจมีจัดโปรโมชั่นบางนิดๆหน่อย ช่วงที่ลดกันสุดๆเยอะๆ เหลือตัวละ 1ยูโร 2ยูโร นี่เลย เดือนส.ค. ลงไป เพราะใกล้จะหมดร้อนแล้ว เป็นช่วงโล๊ะจ้า หั่นราคากัน 70-80%

                                          http://www.mein-mops.de/sale/

เพราะเขาจะเตรียมแฟชั่นฤดูใบไม้ร่วงออกขายแล้วนั้นเอง จึงทำให้นักท่องเที่ยวทุกมุมโลกมาเที่ยวกันเยอะมากเดือนสิงหาเนี่ย อากาศกำลังดี 27-28 C  แถมสินค้าลดราคาทั้งเมือง อู้ย!!! เดินกันมันส์พะยะค่ะ  ที่สำคัญนักท่องเที่ยวชาวอาหรับนี่เยอะมากกกกกก หนีร้อนจากแดนอาหรับมาช๊อปกระจายที่เมืองยุโรป สู้กับพวกนางให้ได้ละกันนะ 

ส่งท้ายคิมหันตฤดู สัปดาห์สุดท้ายเดือนก.ย.ไปถึงกลางเดือนต.ค. เทศกาลอันยิ่งใหญ่ประจำเมืองมิวนิคทุกๆปีที่พลาดไม่ได้คือ Oktober Fest เทศกาลกินเบียร์ที่เลื่องลือ




บรรดาสิงห์นักดื่มทั่วทุกมุมโลกมารวมตัว เมา!!! กันที่นี่ ซึ่งจะจัดที่ลานกิจกรรมกลางเมืองมิวนิค Theresienwiese ในงานมีเต้นท์เบียร์หลากหลายยี่ห้อ รวมทั้งเครื่องเล่นผาดโผนหลากหลายชนิดให้เลือกมากมาย โอกาสหน้ามาดามจะเล่ารายละเอียดของงานนี้ให้ฟังกันอีกทีนะค่ะ

สุดท้ายฤดูใบไม้ร่วง Autumn in my heart  ต.ค. ถึง ธ.ค. 10-18 องศา ใบไม้โรยรา ขอเวลาพักผ่อน ทั้งเมืองต้นไม้ใบเขียวต่างๆ เปลี่ยนสีจากเขียวเริ่มไปเหลืองจนถึงแดง ลมพัดปลิวไหว สายฝนโปรยปรายเกือบจะทั้งวัน โดยเฉพาะเดือนพฤศจิกายน ฝนจะตกบ่อยมากเกือบทุกวันเลย ใครมาช่วงฤดูนี้ทำใจหน่อยนะ ท้องฟ้าอึมครึมตลอด พกร่มติดตัวไว้ด้วยจะดีมาก ช่วงเดือนปลายพฤศจิกายนถึงกลางธันวาคมจะเป็นปลายฤดูใบไม้ร่วงกับต้นฤดูหนาว จึงเรียกกันว่า Autumn winter อาจมีหิมะต้นฤดูตกลงมาบ้าง บางวัน เตรียมอุปกรณ์กันหนาวมาให้ครบนะจ๊ะ

เมื่อฤดูเปลี่ยนแฟชั่นย่อมต้องเปลี่ยนตามไปด้วย สีสันจะออกโทนน้ำตาลๆ สีเข้มกันไป อันนี้แล้วแต่แฟชั่นแต่ละปีนะไม่เสมอไป ช่วงหนาวที่ผ่านมาโทนดำ ส่วนราคาลืมไปเลยค่ะต้นฤดูแน่นอน NO SALE ยาวไปเลยจนต้นธันวาคมโน้นละถึงจะลดกันอีกที แต่อาจจะไม่แรงมากนะ 10-20 % และในช่วงธันวาอีกเช่นกัน จะเป็นฤดูของ ของขวัญคริตมาส พวกกิ๊ฟเซตน้ำหอม เครื่องสำอางค์ เสื้อผ้าทั้งหญิงทั้งชาย หลากหลายสวยๆทั้งนั้น มีให้เลือกละลานตา เฉพาะช่วงนี้เท่านั้นนะ เพราะเป็นเทศกาลสำคัญของพวกเขา ดังนั้นเห็นแล้วชอบ จงซื้อเลยมิเช่นนั้นท่านจะพลาดอย่างแรง  ร้านเครื่องสำอางค์บางร้านก็อาจแถมของเทสเตอร์เล็กๆน้อยๆบ้าง

บรรดาตึกอาคาร ร้านอาหาร โรงแรม ต่างๆ ตกแต่งสวยงาม สดใส มีต้นคริตมาสทั่วทุกที่ พอตกกลางคืนเปิดไฟสว่างไสว สมกับเป็นช่วงส่งความสุขกันเลยทีเดียวมาดามชอบมากช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับ ปีใหม่เนี่ยเป็นช่วงที่น่ามาเที่ยวมากเลยสำหรับความคิดมาดามนะ สวยช๊อบบบบบ

http://www.arcor.de/content/leben/freizeit_familie/ratgeber_freizeit/1619895,1,Winterzeit-ist-Weihnachtsmarktzeit,content.html


สำหรับ ใครอยากเดินตลาดนัดคริตมาสให้มาช่วง 20 พ.ย.-24 ธ.ค. ของทุกๆปี อยู่ราวๆนี้แหละบางปี เริ่ม 21 บางปีเริ่ม 22 พ.ย. ตามกลางเมืองในยุโรปจัดจะตลาดคริสมาสกันทุกปี เมืองยอดนิยมเช่น Cologne, Dresden, Leipzig, Nuremberg และแน่นอน มิวนิคด้วยเช่นกัน 


 http://www.arcor.de/content/leben/freizeit_familie/ratgeber_freizeit/1619895,1,Winterzeit-ist-Weihnachtsmarktzeit,content.html


ซึ่งตลาดคริสมาสใหญ่ของมิวนิคนั้นจะจัดขึ้นที่เดียวกันงานเบียร์เลยก็คือ Theresienwiese นั้นเองภายในงานมีของตกแต่งต้นคริตมาส เสื้อผ้า หมวก ผ้าพันคอ ถุงเท้า และของจุกจิกอีกเยอะแยะ (แต่แพง!! นะจะบอกให้) ขนม นม เนย แน่น ที่ขาดไม่ได้ Gluehwein (ไวน์แดงที่ปรุงใหม่มีส่วนผสมของ น้ำ น้ำตาล อบเชย กานพลู และน้ำส้ม ) ร้อนๆ ดับหนาวให้ดื่มกันด้วยจ้า ขาแอลกอฮอลล์ไม่ควรพลาด


                                               http://www.foodchomp.de/rezepte/gluehwein

 
หรือถ้าใครอยากลองทำเองที่บ้านนี่เลย http://allrecipes.com/recipe/gluehwein/ ใครลองทำเองแล้วมาเล่าให้มาดามฟังบ้างนะคะ

พอจะได้เป็นไอเดียกันบ้างนะค่ะ รักชอบฤดูไหน เตรียมขอวีซ่า มองหาตั๋วโปรโมชั่น จองโรงแรม แล้วบินลัดฟ้ามาเที่ยวกันเลย หากใครอยากปรึกษาเรื่องเที่ยวในเยอรมนีหรือในยุโรปบางประเทศถามมาได้นะค้า ยินดีช่วยจ้า แต่จะช่วยได้หรือเปล่านี่อีกเรื่องนะ แหะๆๆๆ

ปล. แหล่งช๊อปปิ้งต่างๆ เกือบทุกที่ในยุโรป ปิดบริการทุกวันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์!!! นะค่ะ วางแผนการเที่ยวดีๆนะเดี๋ยวจะหาว่ามาดามไม่บอก

คราวหน้าจะเป็นเรื่องอะไรโปรดติดตามกันต่อไปนะค้าาาา

Saturday, 1 August 2015

เที่ยวยุโรปเดือนไหนจะ สบายตังค์ สบายตัวดีเน้อ ตอนที่1



สวัสดีค่ะมิตรรักทุกคน หน้าร้อนของยุโรปกำลังจะหมดไปในไม่ช้านี้แล้ว แต่ชาวกทม. ยังต้องทนกะน้องฝนไปอีกพักใหญ่เลย งั้นหนีฝนมาเที่ยวเยอรมนีกันดีกว่า  แล้วจะไปช่วงไหนดีน้อ มาดามจะสาธายายให้ทุกท่านทราบเผื่อจะได้เป็นไอเดียเตรียมซื้อตั๋ว แพ็คกระเป๋า ลัดฟ้ามาหารักที่นี่ มาดามขอแบ่งเป็นสองบทความนะคะ เด๋วจะยาวเกินอ่านกันไม่ไหว

เริ่มกันที่ต้นปีเลย ม.ค. ถึง มี.ค. หิมะโปรยปราย -8 ถึง -10 องศา ฤดูหนาวสาวขาแตก ทุกทั่วสารทิศจะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพรน กิจกรรมประจำฤดูนี้หนีไม่พ้นสกีแน่นอน ในเยอรมนีก็มีสถานที่เล่นสกีมากมาย


 ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักในแถบบาเยิร์นคือ Garmisch-Partenkirchen อ่านว่า การ์มิช พาร์เทนเคอร์เชน (ภาษาเยอรมันพันลิ้นเหลือเกิน) ที่นั้นจะมีการแข่งขันสกีจั้มกันทุกปี



นอกจากนั้นยังมีถ้ำธารน้ำแข็งเหมาะแก่การผจญภัยยิ่งนัก บรรยากาศโดยรอบสวยมาก


ทีนี้หลังจากบุกป่าฝ่าดงกันไปแล้ว มาสวยงามตามท้องเรื่องช๊อปปิ้งกันมั้งดีกว่าให้ลืมหนาวกันไปเลย ช่วงนี้เขาจะเอาของที่ขายไม่หมดช่วงคริสมาสมาเซลล์ เครื่องสำอางค์เป็นเซตๆ น้ำหอม เครื่องครัว เสื้อผ้า รองเท้า สารพัด 30% เป็นต้นไป หมดแล้วหมดเลยไม่มีมาขายใหม่ แต่ต้องทำใจนิสนะ เพราะอาจจไม่ครบสี ครบไซส์ แต่เชื่อเหอะไซส์เล็กๆ อย่างคนเอเชียมีเหลือ มาดามไปสอยประจำ

เสื้อผ้าจะเป็นพวกแจ๊คเก็ต สำหรับฤดูหนาวเสียส่วนใหญ่แต่ก็จะมีแบบฤดูร้อนที่เอามาใส่บ้านเราได้บ้าง ยกตัวอย่าง แจ๊คเก็ต Zara ข้างในบุด้วยขนสัตว์อย่างดี จากเกือบ 4000 บาท เหลือแค่ 1200 บาท OMG!!  มาดามแทบตระครุบใส่ ทั้งสี ทั้งไซส์ พอดีเป๊ะ แต่...มีล้นตู้แล้ว สามีจะกินหัวเอา
อันนี้หลักพันอาจซื้อยาก เป็นแจ๊คเก็ตบางคนอาจไม่สนใจ แต่หลักร้อยเริสๆก้อมีนะคะ ทั้ง Mango Esprit Forever 21 H&M C&A s.Oliver ..... และอีกเพียบ ยิ่งตามห้างลดแล้วลดอีก จัดไปเหอะคุ้ม แถมได้ VAT 17% คืนอีก เอาจริงโครตอิจฉาพวกเธอเลยว่ะ T T เอ่อ แต่มีอยู่แบรนด์นึงให้ตายยังไงก็ไม่ลดนั้นคือ...... Louis Vuitton  คร้าาาา แต่ซื้อไปเหอะถูกกว่าไทยชัวร์!!!!!

ต่อมา เม.ย. ถึง พ.ค. ใบไม้เริ่มผลิดอกออกใบ อุณหภูมิสูงขึ้นนิดโหน่ย แสงแดดอ่อนๆ ท้องฟ้าโปร่งใส สายฝนโปรยปรายยามเช้า อู้ยยยย โรแมนติกฟุดๆ หุๆๆๆ มาถึงช่วงนก หนูลั้นลากันบ้างละ หลังจากลมหนาวเข้าปกคลุมมานาน อากาศไม่เย็นจนเกินไป แถวๆ 10 องศาขึ้นไป



แม้ว่าอุณหภูมิจะสูงขึ้นแต่ยังคงหนาวจับใจนะจ๊ะเนื่องจากลมซึ่งมันแฝงความเย็นมาฝากด้วย ควรสวมเสื้อผ้าที่หนาพอสมควรแต่อาจไม่จำเป็นต้องหนาสองสามชั้นเหมือนช่วงฤดูหนาวใครขี้เกียจหาซื้อเสื้อกันหนาว มาหาซื้อได้ที่นี่ยังได้อยู่นะ ถูกและดีกว่าที่ขายที่เมืองไทยด้วย แฟชั่นรับลมร้อนก็เริ่มออกมาให้เลือกซื้อกัน สีสันจัดจ้าน ดอกดวงแล่มเป็ด  ราคาจัดเต็มไม่มีลด อิๆๆๆ แน่ละของเขาเพิ่งออก ขอขายราคาเต็มไปก่อนนะแจะ แต่ครบสี ครบไซส์แน่นอลล์

สำหรับ Chocolate lovers ไม่คราวพลาดเทศกาลอีสเตอร์ หรือภาษาเยอรมันเรียก โอตเทน ช่วงมีนาคม-เมษายน (เช็คจากปฏิทินเยอรมันกันอีกทีนะมาดามไม่มั่นใจเรื่องวันที่)  ตามห้างร้านจะมีช๊อคโกแล็ตรูปแบบต่างๆให้เลือกซื้อเลือกทาน


                 http://mama-arbeitet.de/gestern-und-heute/ostern-wie-war-das-in-eurer-kindheit

ส่วนใหญ่จะเป็นรูปกระต่ายเนื่องจากกระต่ายเป็นสัตว์ประจำเทศกาลนี้ หลอกได้ทั้งผู้ใหญ่ทั้งเด็กเลย แต่มาดามขอผ่านเพราะไม่ชอบทานช๊อคโกแลตคร้า

หมดไปกับ สองฤดูแรก เม้าท์แทบลั่นรีบจะคลิ๊กจองตั๋วเครื่องบิน กันแทบไม่ทัน ช้าก่อนๆ ยังมีอีกสองฤดูให้ท่านได้ตัดสินใจ พักเบรคหายใจหายคอกันแพร๊บนึงเด๋วมาต่อกันในบทความหน้านะค้าาาา